

กลุ่มสัจจะวัดป่ายาง
แม้ว่าวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2542 จะนับว่าเป็นวันแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการของกลุ่มสัจจะวัดป่ายาง หนึ่งในสมาชิกเครือข่ายกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์เพื่อพัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิต จังหวัดนครศรีธรรมราช และเป็นกลุ่มแรกของ
เครือข่ายก็ตาม แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ก็ต้องย้อนไปก่อนหน้านั้นกว่า 10 ปี ที่บุรุษผู้ที่เป็นผู้นำของเครือข่ายนี้ จะหันหน้าเข้าสู่เส้นทางนี้
หลังจากที่นายเสรี รอดรัตน์ ลงจากเขาเมื่อมีประกาศที่ 66/23 ออกมา ในปลายปีนั้น ท่านก็ได้ลงจากเขามา แล้วมาใช้ชีวิตตามวิถีชาวโลกอยู่หลายปี ก่อนที่จะไปพบหลวงพ่อพุทธทาส แล้วได้รับแรงบันดาลใจจากคำของหลวงพ่อที่ว่า “ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ” ทำให้จุดเริ่มต้นบทเส้นทางใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ในปี พ.ศ. 2538 ท่านได้ตัดสินใจหันเข้าหาศาสนา และได้ชื่อใหม่ว่า พระสุวรรณ คเวสโก เพราะมองไม่เห็นทางว่า ชีวิตทางโลกจะเปลี่ยนแปลงสังคมได้อย่างไร ทางนี้เป็นทางรอดทางเดียวของสังคมแน่นอน จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3 ปี ท่านวรรณจึงได้พบหนทางที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมอีกครั้ง โดยใช้แนวทางการรวมชาวบ้านมาจัดการการเงินของตัวเอง
ในปี พ.ศ. 2541 ท่านวรรณได้เชิญลุงฝาก ตรีถวัลย์ จากบ้านคีรีวง มาถอดบทเรียนเรื่องการตั้งกลุ่มออมทรัพย์ เมื่อถอดบทเรียนได้แล้วท่านจึงไปหารือกับผู้นำชุมชนในบ้านป่ายาง มีนายจาย นนทเภท นายย่องภูธรภักดี นายณรงค์ จุลแก้ว ดร.ไมตรี จันทรา เมื่อหารือกับผู้นำชุมชนแล้ว ท่านวรรณได้ไปร่วมสัมมนาพระนักพัฒนาที่วัดไผ่ล้อม จังหวัดตราดอีกในปลายปีเดียวกัน
ก่อนเดินทางมาสัมมนาที่วัดไผ่ล้อมท่านวรรณได้ประกาศขอบริจาคเงินจากญาติโยมในบ้านป่ายางคนละ 100 บาท โดยมีข้อแม้ว่า ห้ามถามว่าจะเอาไปทำอะไร พอมาดูงานที่วัดไผ่ล้อม ท่านสุบิน ปณีโต เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ให้แรงบันดาลใจแก่ท่านอย่างสำคัญ ท่านวรรณพบว่ากองทุนสวัสดิการของวัดไผ่ล้อม น่าจะเป็นแนวทางที่สามารถจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมได้
พอกลับจากจังหวัดตราด ท่านวรรณได้เรียกประชุมแกนนำชุดชนในบ้านป่ายาง และแกนนำได้เห็นพ้องต้องกันว่า จะยึดแนวทางตามท่านสุบิน เมื่อกลับมาที่วัดป่ายาง ท่านก็ได้ประกาศเชิญชวนให้ชาวบ้านมาสมัครเป็นสมาชิกกลุ่ม มีผู้มาสมัครสมาชิกในคราวก่อตั้งทั้งหมด 411 คน เงินสัจจะวันก่อตั้งมี 14,420 บาท ส่วนเงินที่ขอบริจาคไว้ครอบครัวละ 100 บาทก่อนไปจังหวัดตราดได้ทั้งหมด 18,280 บาท ถูกนำเข้าเป็นกองทุนสวัสดิการ ทำให้มีเงินหมุนเวียนแรกก่อตั้งทั้งหมด 32,700 บาท
กรรมการชุดก่อตั้งมีทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย (1)นายจาย นททเภท เป็นประธาน (2)นายณรงค์ จุลแก้ว เป็นรองประธาน (3)นางนที นนทเภท (4)นางกัลยา ศิริพรหม (5)นางประภัสสร วงสดชื่น และ (6)น.ส.ประเวียง จุลแก้ว เป็นกรรมการ
มาถึงวันนี้ เป็นปี พ.ศ. 2560 กลุ่มสัจจะวัดป่ายาง มีสมาชิกกว่า 1,300 คน มีเงินกองทุนสัจจะกว่า 22 ล้านบาท และเงินกองทุนสัจจะสะสมกว่า 12 ล้านบาท กองทุนสวัสดิการร่วม 10 ล้านบาท นอกจากนี้ สมาชิกกว่า 800 คน เป็นสมาชิกกองทุนคุ้มครองชีวิตของเครือข่ายกลุ่มสัจจะ ซึ่งเป็นสวัสดิการที่เพิ่มเติมเข้ามา หลังจากการตั้งกลุ่มผ่านไปได้ 15 ปี
กรรมการชุดปี พ.ศ. 2560 มีทั้งหมด 12 คน มีนางกัลยา ศิริพรหม เป็นประธาน น.ส.ประเวียง จุลแก้ว เป็นรองประธาน พร้อมทั้งกรรมการอื่น ๆ อีก 10 คน ได้แก่ (1)นายกนก วิไชยเดช (2)นายพล พุทธวิเชียร (3)นางประภัสสร วงสดชื่น (4)นางน้อย เตระไชย (5)นางอุทัย โพภิบาล (6)นางนที นนทเภท (7)นางปรีดา คงแก้ว (8)นางขวัญฤทัย นารีพล (9)นางประยูร อภิวันท์ และ(10)นางโสภี กุลใจการ โดยมี ครูแผ้ว นายเลอศักดิ์ จิตร์รัว เป็นที่ปรึกษา