

กลุ่มสัจจะบ้านสวนปรางค์
กลุ่มสัจจะบ้านสวนปรางค์ เป็นสมาชิกเครือข่ายกลุ่มที่ 22 ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 5 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 เดือนมกราคม พ.ศ. 2554 แต่กว่าจะเกิดวันนี้ขึ้นได้ การดำเนินการเพื่อตั้งกลุ่มได้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หลายเดือน
เมื่อปี 2553 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ได้นิมนต์พระอธิการสุวรรณ คเวสโก เจ้าอาวาสวัดป่ายาง มาบรรยายที่องค์การบริหารส่วนตำบลกรุงชิง เรื่องแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
หลังจากบรรยายจบ พระอาจารย์สุวรรณ ได้สอบถามคณะกรรมการบ้านสวนปรางค์ว่า จะตั้งกลุ่มสัจจะหรือไม่ท่านจะมาช่วย ผู้ใหญ่บ้านสวนปรางค์ หมู่ที่ 5 และผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มสัจจะ มีความสนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ไม่มีโอกาส
หลังจากนั้น เมื่อได้โอกาสอันเหมาะ คณะผู้ร่วมก่อตั้งจึงได้ไปศึกษาดูงานที่วัดป่ายาง และตามกลุ่มต่าง ๆ รวมทั้งได้ค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ต แล้วจึงตั้งวงพูดคุยกันในกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งขึ้นในประเด็นที่เกี่ยวกับกลุ่มสัจจะหลายเรื่อง
คณะผู้ร่วมก่อตั้งได้เอากฎระเบียบของกลุ่มต่าง ๆ มาอ่านและได้เห็นความโดดเด่นของกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์เพื่อพัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิต ซึ่งมีเครือข่ายสัจจะวัดป่ายางที่ดูจะมีคุณธรรมและหลักธรรมาภิบาลเป็นหลักในการนำกลุ่มเครือข่ายไปในทิศทางที่ควรจะเป็น ได้คอยช่วยให้คนพัฒนาคนและจิตใจได้
เมื่อการพูดคุยกันในกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งได้ตกผลึกทางความคิดแล้ว จึงได้นิมนต์พระอาจารย์สุวรรณ มาช่วยพูดคุยกับชาวบ้านให้ ท่านได้มาช่วยดำเนินการตั้งกลุ่มให้ด้วยความเต็มใจ แต่กว่ากลุ่มจะเกิดขึ้นได้ ต้องใช้การพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึง 3 ครั้ง กลุ่มจึงถือกำเนิดขึ้นมาได้
ในวันก่อตั้ง มีกรรมการชุดก่อตั้งทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย (1)นายอำนวย จันทร์ชุม (2)นายสิทธิศักดิ์ ปัญญาสงค์ (3)เรือตรีวิจิตร เมืองพรหม และ(4)นายไสว จันทร์เอียด
สมาชิกรุ่นก่อตั้งมีทั้งหมด 100 คน มีเงินสัจจะสะสม 8,190 บาท เงินกองทุนสวัสดิการ 9,900 บาท ค่าธรรมเนียมค่าบริจาค 2,230 บาท รวมเป็นเงินทุนหมุนเวียนในวันก่อตั้งทั้งหมด 20,320 บาท
ในปี พ.ศ. 2560 กลุ่มดำเนินการย่างเข้าปีที่ 7 แล้ว กลุ่มมีเงินสัจจะสะสมกว่า 1 ล้านบาท มีกองทุนสวัสดิการร่วม 5 แสนบาท รวมเงินทุนหมุนเวียนทั้งหมดมากกว่า 1 ล้าน 7 แสนบาท
กรรมการชุดปี พ.ศ. 2560 มีทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย (1)นายสิทธิศักดิ์ ปัญญาสงค์ เป็นประธาน (2)นายไสว จันทร์เอียด เป็นรองประธาน (3)เรือตรีวิจิตร เมืองพรหม เป็นเหรัญญิก และ (4)นางจิรนันท์ เทพทอง (5)นางสาวสุภัสสรา ศิริแก้ว (6)นางเสงี่ยม เกิดทอง เป็นกรรมการ